TOP 10 : สุดยอด ‘กองหน้า’ ตลอดกาลศึก ‘พรีเมียร์ลีก’
หากการจับอันดับครั้งนี้เกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า รับรองว่าต้องมีใครสักคนใน 10 อันดับนี้หลุดไปอย่างแน่นอน เพราะแค่ฤดูกาลครึ่งของชายที่ชื่อว่า เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งพรีเมียร์ลีกแล้ว แต่หากมองถึงความเป็นตลอดกาลแล้วล่ะก็ อ่านต่อด้านล่างได้เลยครับ
10. แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์(Matthew Le Tissier)
สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 270 นัด ยิง 100 ประตู จ่าย 63 แอสซิสต์
สโมสรเด่น: เซาแธมป์ตัน
ถ้วยความสำเร็จ: -
เกียรติยศส่วนตัว: ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาลสโมสรเซาแธมป์ตัน x3, แอสซิสต์สูงสุดประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, ประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, หอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก
หากจะถามหานักฟุตบอลมากพรสวรรค์ แต่เต็มไปด้วยความอินดี้แล้วล่ะก็ ใครหลายคนล้วนต้องนึกถึงนักเตะชาวอังกฤษ แต่ชื่อดันเหมือนคนฝรั่งเศสอย่าง แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ เห็นไหมแค่นี้ก็ไม่เหมือนใครแล้ว
ด้วยฝีเท้าอันจัดจ้านจนแบกให้ ทีมดาด ๆ อย่าง เซาแธมป์ตัน ต่อสู้กับทีมชั้นนำได้แบบสูสี จนไปเตะตา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชักชวนให้ไปร่วมทีม แมนฯยูไนเต็ด แต่เขาก็ปฏิเสธด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า ‘ขี้เกียจย้ายบ้าน’
9. รุด ฟาน นิสเตลรอย (Ruud Van Nistelrooy)
สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 150 นัด ยิง 95 ประตู จ่าย 14 แอสซิสต์
สโมสรเด่น: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x1, เอฟเอ คัพ x1, ลีก คัพ x1
เกียรติยศส่วนตัว: ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาลสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด x2, ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, ดาวซัลโวประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x2, ดาวซัลโวประจำฤดูกาล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก x3
อันที่จริง กองหน้าชาวดัตช์รายนี้ ทำประตู และคว้าแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น้อยกว่า แอนดี้ โคล ที่ยิงหมูหกเป็นประจำด้วยซ้ำ แต่ว่าช่วงเวลาของเขาในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด กับมีเรื่องราวอันน่าจดจำ
แข้ง ‘หน้าม้า’ รายนี้ มีการจบสกอร์อันเฉียบคมอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะจังหวะในกรอบ 5 หลา ที่การันตีใส่สกอร์ได้เลย แล้วยิ่งผสานกับปีกเท้าช่างทองอย่าง เดวิด เบคแฮม ความสุดยอดในตอนนั้นถ้าใครนึกภาพไม่ออก ก็ดูที่ เควิน เดอ บรอยน์ ผสานงานกับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ก็ได้
8. เอียน ไรท์ (Ian Wright)
สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 213 นัด ยิง 113 ประตู จ่าย 22 แอสซิสต์
สโมสรเด่น: อาร์เซนอล
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x1, เอฟเอ คัพ x2, ลีก คัพ x1, ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ x1
เกียรติยศส่วนตัว: ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาลสโมสรอาร์เซนอล x2, ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x2, หอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก
หลายคนอาจจะคุ้นชื่อชายคนนี้จากการเป็นกูรู แถมล่าสุดยังเพิ่งถูกแซวเรื่องอวย ลิเวอร์พูล ซะจนคิดว่าเป็นสาวก ‘หงส์แดง’ อีกต่างหาก ทว่าใครเลยจะรู้ว่าเจ้าตัวคือจุดเริ่มต้นความสำเร็จของ อาร์เซนอล
กองหน้ารายนี้โด่งดังมาตั้งแต่สมัยค้าแข้งกับ คริสตัล พาเลซ ในยุคที่ลีกสูงสุดแดนผู้ดียังมีชื่อว่า ‘ดิวิชั่น 1’ ก่อนที่การมาสวมชุด ‘ปืนใหญ่’ จะช่วยทีมถล่มประตูได้เป็นกอบเป็นกำ แถมยังจบสกอร์ได้ทุกรูปแบบ จนบรรดากองหลังยากจะรับมือ
7. ไมเคิล โอเว่น (Michael Owen)
สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 326 นัด ยิง 150 ประตู จ่าย 31 แอสซิสต์
สโมสรเด่น: ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x1, เอฟเอ คัพ x1, ลีก คัพ x3, ยูฟ่า คัพ x1
เกียรติยศส่วนตัว: บัลลงดอร์ x1, ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, ดาวซัลโวประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x2, หอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก
สาวก ‘หงส์แดง’ คงต้องเจ็บจี๊ดสักหน่อยนะครับ เพราะกองหน้าคนเดียวที่ติดอยู่ในรายชื่อนี้ คือ ‘จูดาส’ อย่าง ไมเคิล โอเว่น ที่ครั้งนึงเคยไปคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับประโยคอันปวดใจว่า “หากผมเลือกที่นี่ตั้งแต่เป็นดาวรุ่งคงจะประสบความสำเร็จกว่านี้”
อย่างไรก็ตาม ศูนย์หน้าร่างเล็กคนนี้ มีช่วงเวลาร้อนแรงที่สุดกับ ลิเวอร์พูล และที่สำคัญเขาคือนักเตะทีมชาติอังกฤษคนสุดท้ายที่สามารถคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ได้สำเร็จ
6. ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (Didier Drogba)
สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 254 นัด ยิง 104 ประตู จ่าย 55 แอสซิสต์
สโมสรเด่น: เชลซี
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x4, เอฟเอ คัพ x4, ลีก คัพ x3, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก x1
เกียรติยศส่วนตัว: ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาลสโมสรอาร์เซนอล x2, ดาวซัลโวประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x2, แอสซิสต์สูงสุดประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x2, หอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก
ในช่วงยุค 2000 หลายคนอาจจะยังชินกับสุดยอดกองหน้า ที่ต้องมีลีลาพริ้วไหว ปราดเปรียว แต่กับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เขาคือปีศาจร้ายของเหล่ากองหลัง ที่มีร่างกายบึกบึน พร้อมปะทะแบบดุดันไม่เกรงใจใคร
ที่สำคัญเขามีส่วนกับ เชลซี ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 4 สมัย ที่สำคัญยังเป็นผู้ทำประตูตีเสมอใส่ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนจะยิงจุดโทษในนาทีสุดท้ายช่วงให้ทัพ ‘สิงห์บลู’ คว้าถ้วยหูโตกับถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
5. เซร์คิโอ อเกวโร่ (Sergio Aguero)
สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 275 นัด ยิง 184 ประตู จ่าย 47 แอสซิสต์
สโมสรเด่น: แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x5, เอฟเอ คัพ x1, ลีก คัพ x6
เกียรติยศส่วนตัว: ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาลสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ x2, ดาวซัลโวประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x2, หอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก
บอกเลยว่าหากไม่ใช่เพราะชายคนนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะอยู่ในสถานะสุดยอดทีมอันดับหนึ่งของโลก หรือแบบหลายสโมสรที่มีกำลังทรัพย์ แต่ไม่มีปัญญาคว้าแชมป์
ลูกยิงในเสี้ยววินาทีสุดท้ายของฤดูกาล 2011/12 ที่ผู้บรรยายเปล่งเสียงลากยาวออกมาว่า “อเกวโร่……” เพื่อเฉลิมฉลองประตูที่ช่วยให้ ‘เรือใบสีฟ้า’ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกได้สำเร็จ ก่อนที่จะกวาดทุกรางวัลจนเพื่อนร่วมลีกได้แต่มองตาปริบ ๆ
4. เวย์น รูนี่ย์ (Wayne Rooney)
สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 491 นัด ยิง 208 ประตู จ่าย 103 แอสซิสต์
สโมสรเด่น: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x5, เอฟเอ คัพ x1, ลีก คัพ x3, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก x1, ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก x1
เกียรติยศส่วนตัว: ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาลสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด x2, ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, แอสซิสต์สูงสุดประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, ดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x3, หอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก
ครั้งนึงเขาเคยเป็นเจ้าของสถิติ ผู้ทำประตูได้ในศึกพรีเมียร์ลีกที่อายุน้อยที่สุด ตั้งแต่สมัยเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน ก่อนจะย้ายทีมด้วยค่าตัวมหาศาลมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
และเพียงแค่นัดแรกในเสื้อ ‘ปีศาจแดง’ เขาก็ซัดแฮททริคได้สำเร็จ แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอต่อการยืนยันถึงความเป็นสุดยอดเพชณฆาต จนได้ฉายาว่า ‘สุกรโลกันต์’ เป็นเครื่องจักรสังหารที่สั่นสะเทือนแผ่นดินอังกฤษมาแล้ว
3. แฮร์รี่ เคน (Harry Kane)
สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 320 นัด ยิง 213 ประตู จ่าย 46 แอสซิสต์
สโมสรเด่น: ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ถ้วยความสำเร็จ: -
เกียรติยศส่วนตัว: ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาลสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ x3, ดาวซัลโวประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x3, ดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x6
อาจจะฟังดูประหลาดสักหน่อยนะครับ ที่ดาวยิงอันดับ 3 ในลิสต์นี้ กับไม่เคยคว้าแชมป์แม้แต่สมัยเดียวในฐานะนักเตะอาชีพ จนต้องระหกระเหินไปอยู่กับทีมแชมป์บุนเดสลีกา 11 สมัยติด ทว่าโชคชะตาเหมือนจะไม่เป็นใจ เพราะปีนี้ บาเยิร์น มิวนิค ไม่ได้นำโด่งเหมือนทุกปี
อย่างไรก็ตาม คงไม่มีใครบังอาจปฏิเสธว่า ‘คิงเคน’ เป็นสุดยอดกองหน้า ด้วยการล่าตาข่ายจนขยับขึ้นมาเป็นดาวซัลโวอันดับ 2 ของศึกพรีเมียร์ลีก อีกทั้งยังขึ้นแท่นสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอังกฤษอย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย
2. เธียร์รี่ อองรี (Thierry Henry)
สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 258 นัด ยิง 175 ประตู จ่าย 74 แอสซิสต์
สโมสรเด่น: อาร์เซนอล
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x2, เอฟเอ คัพ x2
เกียรติยศส่วนตัว: ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาลสโมสรอาร์เซนอล x4, ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x2, ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x6, ดาวซัลโวประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x4, หอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก
ผมมั่นใจเลยว่า ถ้านับเฉพาะช่วงพีค ฝีเท้าของ เธียร์รี่ อองรี ไม่ได้เป็นรองสองนักเตะที่ยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์โลก ซึ่งผมคงไม่ต้องบอกพวกคุณก็คงรู้ดีว่าหมายถึงใคร
นอกจากนั้นสไตล์การเล่นที่เก่งจนดูยียวนกวนประสาท ซึ่งอาจจะดูหมั่นไส้ไปบ้าง แต่ว่ามันช่างสวยงาม และมีประสิทธิภาพเหลือล้น นอกจากนั้นการจบสกอร์ก็ยังเฉียบคมแบบที่สาวก ‘เดอะ กูนเนอร์ส’ ล้วนต่างคิดถึง
1. อลัน เชียเรอร์ (Alan Shearer)
สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 441 นัด ยิง 260 ประตู จ่าย 64 แอสซิสต์
สโมสรเด่น: แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x1
เกียรติยศส่วนตัว: ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาลสโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด x3, ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x2, ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x6, ดาวซัลโวประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x3, ดาวซัลโวตลอดกาลพรีเมียร์ลีก, หอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก
อันดับหนึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากเจ้าของสถิติผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของศึกพรีเมียร์ลีก นี่ขนาดว่าเล่นให้กับทีมที่ไม่เคยได้แชมป์อะไรเลยอย่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งบางครั้งหล่นไปอยู่ครึ่งล่างของตารางด้วยซ้ำ
เดชะบุญที่ครั้งนึงเคยได้แชมป์ถ้วยนี้ สมัยค้าแข้งอยู่กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ซึ่งเขาก็เคยถูกทาบทามจาก เซอร์ อเล็กซ์-เฟอร์กูสัน เช่นกัน แต่สุดท้ายเลือกที่จะปฏิเสธ เพื่อมาสวมเครื่องแบบสีขาวดำ ‘สาลิกาดง’ ซึ่งเป็นทีมรักมาตั้งแต่เด็ก
การนำเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของเขาจะคงอยู่ต่อไป เนื่องจากผู้ตามหลังอย่าง แฮร์รี่ เคน ย้ายออกจากลีกไปแล้ว อย่างไรก็ตามตัวเลขของเขากำลังถูกท้าทายโดย เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ซึ่งหากไม่หาความท้าทายใหม่ กองหน้าตำนานทีมชาติอังกฤษรายนี้ อาจไม่ได้เป็นที่หนึ่งอีกต่อไป
เขียนโดย 38 Drinks
The Lite Team.